HARN จะพาทำความรู้จัก คอยล์เย็น แบบ คาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV/VRF กันครับ
คอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF ส่วนมากแล้วเราจะเรียกทับศัพท์ภาษาอังกฤษเลยว่าเป็นแบบคาสเส็ท (Cassette Type) บางครั้งจะเรียกว่า เป็นคอยล์เย็นแบบฝังฝ้า
ซึ่งคำว่า “ฝังฝ้า” นี้จะแตกต่างจากแบบ “ซ่อนฝ้า” นะครับ เพราะคำว่าฝังฝ้านี้เรายังสามารถมองเห็นตัวเครื่องได้อยู่เมื่อเรายืนอยู่ใต้ฝ้า แต่แบบซ่อนฝ้า (Concealed Type) นั้นเราจะมองไม่เห็นตัวเครื่องเลยเมื่อเรายืนอยู่ใต้ฝ้า คือถ้าเป็นแบบซ่อนฝ้า (Concealed Type) จะเป็น FCU ชนิดต่อท่อลมหรือเรียกเต็มๆว่า Ceiling Concealed Duct Type ฉะนั้นแล้วอย่าสับสนนะครับในเรื่องชื่อ
ข้อดีของคอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF
การกระจายลมดีเนื่องจากลมเย็นจะถูกเป่าออกมา 4 ทิศทางโดยรอบ
เมื่อติดตั้งอยู่กลางห้องจะสามารถแผ่กระจายความเย็นไปได้ทั่วถึงทั้งห้อง นิยมใช้กับห้องทำงาน, ห้องเรียน, Minimart, ห้องออกกำลังกาย, ห้องรับแขก เป็นต้น
มีขนาด Btu/h ให้เลือกพอสมควร คือตั้งแต่ 9,600 ถึง 54,600 Btu/h
คอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF เมื่อเปรียบเทียบกับ FCU แบบติดผนัง (wall Mounted type) แล้วจะมีขนาดความสามารถในการทำความเย็นที่ใหญ่กว่าแบบติดผนังมากจึงสามารถใช้กับห้องขนาดใหญ่ได้ด้วย ส่วนมากแล้ว FCU แบบติดผนังจะมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 7,500 ถึง 28,000 Btu/h เท่านั้น (อ้างอิงตามผลิตภัณฑ์ Hisense VRF ปี 2023)
มีปั๊มน้ำทิ้งในตัว
ทำให้คอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF จึงสามารถเดินท่อน้ำทิ้งจากตัวเครื่องขึ้นในแนวดิ่ง (Shoot up) ไปก่อนสักเล็กน้อยแล้วค่อยเดินในแนวนอนเพื่อหาทางลงอีกทีหนึ่ง การเดินท่อน้ำทิ้งจึงมีความสะดวกมากขึ้นเพราะมีระยะสำหรับให้เดินท่อน้ำทิ้งมากมายบนฝ้าเพื่อหาจุดลงอีกทีหนึ่ง ไม่ยุ่งยากเหมือน FCU แบบ Wall Mounted Type ซึ่งไม่มีปั๊มน้ำทิ้งในตัวจึงต้องเดินท่อน้ำทิ้งลาดลงมาจากตัวเครื่องทันที ถ้าผนังที่ใช้ติดตั้งเป็นผนังภายในอาคารท่อน้ำทิ้งนี้จะกระทบกับความสวยงามของห้อง ผู้รับเหมาจึงต้องหาทางฝังท่อน้ำทิ้งในผนังเพื่อไม่ให้กระทบกับความสวยงามของห้องจึงเป็นงานที่เพิ่มขึ้นมา และยังต้องยุ่งยากในการหาจุดลงของท่อน้ำทิ้งเพราะต้องหาทางเลื้อยท่อไปตามผนังห้องต่างๆจนถึงจุดต่อกับท่อเมนน้ำทิ้งให้ได้
ฉะนั้น คอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF จึงตอบโจทย์ตรงนี้อย่างมากในเรื่องของการเดินท่อน้ำทิ้ง เพราะเป็นการเดินท่อน้ำทิ้งบนฝ้าจึงไม่กระทบกับความสวยงามของห้องและไม่กระทบกับงานผนังภายในห้อง
การเดินท่อน้ำทิ้งขึ้น (Shoot up) จากตัวเครื่อง FCU แบบคาสเส็ทสามารถเดินได้สูงถึง 70 ซม.จึงทำให้มีระยะพอที่จะเผื่อให้เดินในแนวนอนได้ไกลพอสมควร ปกติแล้วการเดินท่อน้ำทิ้งในแนวนอนจะต้องมีความลาดเอียง (Slope) อยู่ในช่วง 1:25 ถึง 1:100 เพื่อให้สามารถระบายน้ำออกด้วยแรงโน้มถ่วงของโลกได้
สมมติว่าเราเดินท่อออกจาก FCU หรือ คอลย์เย็นของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF และยกขึ้น 35 ซม.จากระดับฝ้า (ปกติแล้วเนื้อที่ความสูงบนฝ้ามักจะมีน้อย เช่นมีแค่ 40 ซม. เราจึงทำท่อยกสูงได้แค่ประมาณ 35 ซม. เท่านั้น) หลังจากนั้นจึงเดินท่อน้ำทิ้งทำเป็นรูป U คว่ำหรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Inverted-U Trap เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนกลับมาที่ตัวเครื่อง เมื่อทำ Inverted-U Trap แล้ว ท่อน้ำทิ้งจะลดระดับลงเหลือประมาณ 25 ซม.จากระดับฝ้า จากนั้นจึงเริ่มเดินในแนวนอนเพื่อไปหาจุดลง ถ้าเราเดินท่อลาดเอียง 1:100 (หมายถึงเดินในแนวนอนยาว 100 ส่วน ต้องลาดลง 1 ส่วน) เราจะสามารถเดินท่อน้ำทิ้งได้ไกลประมาณ 25 เมตร ซึ่งเกิดจากการคำนวณโดยเอา 25 ซม.x 100 = 2,500 ซม. หรือ 25 เมตรนั่นเอง ท่อน้ำทิ้งจะลดระดับมาถึงระดับฝ้าพอดี เราจะต้องหาจุดลง เช่นช่องชาฟท์ ให้เจอภายในระยะ 25 เมตรซึ่งค่อนข้างเหลือเฟือ
สะดวกในการล้างหรือซ่อมแซม
เพราะเพียงแค่เปิดฝาลมดูดตรงกลางเครื่องคอลย์เย็นของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF ลงหรือถอดออกเลยก็สามารถทำการล้างหรือซ่อมแซมเครื่องได้เลย ไม่จำเป็นต้องกระทบกับงานฝ้าเมื่อเปรียบเทียบกับ FCU แบบ Ceiling Concealed Duct Type ซึ่งต้องทำเปิดช่อง Service ที่ฝ้าใต้เครื่อง FCU ก่อนจึงจะสามารถเข้าถึงตัวเครื่องได้
ข้อควรระวังในการติดตั้งคอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF
ติดตั้งให้มีระยะห่างจากผนังอย่างน้อย 5 เมตร
ถ้าต้องการติดตั้งคอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF ในพื้นที่แคบๆ ควรพึงระวังให้มีระยะห่างจากผนังอย่างน้อย 5 เมตรเพื่อมิให้เกิดปัญหาลมเย็นสะท้อนผนังและถูกดูดกลับมาที่ตัวเครื่องทันที (ปัญหาลมเย็นสะท้อนกลับตัวเครื่อง) เพราะที่เหนือตะแกรงลมกลับของตัวเครื่องจะมีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิลมกลับติดตั้งไว้ เซ็นเซอร์นี้จะเข้าใจผิดคิดว่าอุณหภูมิลมกลับทำได้ตามเป้าหมายแล้วจึงสั่งให้ EEV (Electronic Expansion Valve) ลดการฉีดน้ำยาลงเพื่อลดการทำความเย็น แต่ความเป็นจริงแล้วห้องยังไม่เย็น
เราต้องเข้าใจก่อนว่าทางเดินทางของลมเย็นที่ถูกต้องเมื่อออกจากเครื่อง FCU หรือคอลย์เย็นของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF แล้วจะต้องไปทำความเย็นให้ห้องก่อนแล้วจึงค่อยถูกดูดกลับมาที่ตัวเครื่อง ปกติแล้วลมเย็นที่ออกจาก FCU ใหม่ๆจะมีอุณหภูมิประมาณ 12-15 องศาเซลเซียส และเมื่อลมเย็นนี้กระจายเข้าไปในห้อง จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเป็น 20 กว่าองศาเซลเซียส แล้วค่อยเดินทางกลับมาที่ด้านดูดของ FCU เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิทีติดอยู่ที่ด้านดูดของ FCU จะคอยตรวจสอบว่าอุณหภูมิอากาศด้านดูดนี้มีค่าตามที่เราตั้งไว้หรือไม่เพราะอุณหภูมิด้านดูดนี้มีค่าเป็นตัวแทนของอุณหภูมิห้อง ฉะนั้นถ้าเราตั้งอุณหภูมิห้องไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส แต่ลมที่ดูดกลับมามีค่าแค่ 20 องศาเซลเซียส เนื่องจากปัญหา Cold Air Short Cycle จะทำให้ FCU ลดการฉีดน้ำยาลงทั้งๆที่ห้องยังไม่เย็น
ถ้าจำเป็นต้องติดตั้ง คอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF ใกล้ผนังด้านใดด้านหนึ่งที่มีระยะไม่ถึง 1.5 เมตร ก็แนะนำให้อุดช่องลมจ่ายด้านนั้นด้วยเทปฉนวนยางดำที่ด้านในเพื่อมิให้ลมเย็นถูกเป่าออกมาและสร้างปัญหาลมเย็นสะท้อนกลับตัวเครื่อง
พึงระวัง “ฝ้าหลุม”
เนื่องจาก คอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF นั้นนิยมติดตั้งบริเวณกลางห้องเพราะตัวเครื่องสามารถจ่ายลมออกมา 4 ทิศทางรอบตัวเครื่อง แต่มีข้อที่ต้องพึงระวังอยู่ข้อหนึ่งคือ การติดตั้ง คอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF ใน “ฝ้าหลุม” ถ้าฝ้าหลุมมีขนาดใหญ่กว่าหน้ากาก FCU เพียงเล็กน้อย และมีความลึกของหลุมมาก จะทำให้เกิดปัญหา “ลมเย็นสะท้อนกลับตัวเครื่อง” เช่นเดียวกัน
เพราะหลุมที่ลึกและแคบจะมีแนวโน้มทำให้ลมเย็นไม่สามารถเดินทางกระจายออกจากตัวเครื่องได้และเกิดการสะท้อนกลับมาที่ตะแรงดูดตรงกลางเครื่องทันที ที่เหนือตะแกรงดูดลมกลับจะมีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิลมกลับติดตั้งไว้ เซ็นเซอร์นี้จะเข้าใจผิดว่าอุณหภูมิห้องทำได้ตามเป้าหมายแล้วจึงสั่งให้ EEV (Electronic Expansion Valve) ลดการฉีดน้ำยาลงเพื่อลดการทำความเย็น แต่ความเป็นจริงแล้วห้องยังไม่เย็น
กรณีนี้ให้ท่านพูดคุยกับผู้ออกแบบตกแต่งภายในให้ดีตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบเพราะถ้าติดตั้งไปแล้วจะมีความยุ่งยากในการแก้ไขมาก ท่านจะต้องรื้อฝ้าทำใหม่หมดเพื่อขยายขนาดหลุมฝ้าให้ใหญ่ขึ้นหรือลดความลึกของหลุมฝ้าลง ซึ่งจากประสบการณ์แล้วการแก้ไขงานฝ้านั้นทำได้ยากมากและมีค่าใช้จ่ายสูงฉะนั้นท่านจึงควรระมัดระวังให้ดีตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบสถาปัตยกรรมภายใน
คอลย์เย็นแบบมินิคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF หรือ FCU แบบมินิคาสเส็ท 4 ทิศทาง (Mini 4-Way Cassette Type)
เมื่อพูดถึง คอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF แล้ว เราจะพบว่าระบบปรับอกาศ VRV หรือ VRF นี้จะมี FCU แบบ “Mini” 4-way Cassette Type ให้เลือกด้วย ฉะนั้นเราจะมาทำความรู้จักกันครับว่ามันคืออะไร
คอลย์เย็นแบบมินิคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF หรือ FCU นั้น ก็มีลักษณะตามชื่อเลยคือจะมีหน้าตาเหมือน 4-Way Cassette Type ทุกประการแต่จะมีขนาดเล็กกว่า และมีขนาดความสามารถในการทำความเย็นให้เลือกไม่เกิน 19,000 Btu/h (อ้างอิงตามผลิตภัณฑ์ Hisense VRF ปี 2023)
เหตุผลที่ผู้ผลิตทำเครื่องรุ่นนี้ออกมาก็เพราะว่าต้องการให้สามารถติดตั้งกับฝ้าทีบาร์ได้เลยโดยไม่ต้องตัดโครงฝ้า เพราะขนาดเครื่องมีขนาดเล็กกว่าช่องฝ้าทีบาร์ ในขณะที่คอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF จะมีขนาดเครื่องใหญ่กว่าช่องฝ้าทีบาร์ ทำให้ต้องตัดโครงฝ้าซึ่งมีความยุ่งยากและกระทบกับความแข็งแรงของ “โครงคร่าวฝ้า”
ฝ้าทีบาร์จะเป็นตารางที่มีระยะห่างของโครงคร่าวฝ้าทุกๆ 60 ซม. แต่ถ้าหักความหนาของโครงคร่าวฝ้าออกจะเหลือขนาดช่องอยู่ที่ 58 ซม. x 58 ซม. ขนาด FCU แบบ “มินิ” คาสเส็ท 4 ทิศทางจะอยู่ที่ 57 ซม. x 57 ซม. จึงสามารถสอดเครื่องขึ้นเพื่อติดตั้งได้โดยไม่ต้องตัดโครงคร่าวฝ้า ในขณะที่ FCU แบบคาสเส็ท 4 ทิศทางที่ไม่ใช่รุ่นมินิจะมีขนาดเครื่องอยู่ที่ 84 ซม. x 84 ซม. จึงจำเป็นต้องตัดโครงคร่าวฝ้าออกมิเช่นนั้นจะติดตั้งไม่ได้
หลังจากติดตั้งเครื่องแล้วเราจะติดตั้งหน้ากาก (Panel) ของ คอลย์เย็นแบบมินิคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF เข้าไปที่ตัวเครื่อง ซึ่งหน้ากากนี้จะมีขนาด 65 ซม. x 65 ซม.เมื่อติดเข้ากับตัวเครื่องแล้วมันจะปิดทับโครงคร่าวฝ้าจึงทำให้งานออกมาดูเรียบร้อยสวยงาม
อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดของ คอลย์เย็นแบบมินิคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF เมื่อเทียบกับรุ่นที่ไม่ใช่ Mini แล้วก็คือขนาด Btu/h ที่มีให้เลือกนั้นมีถึงแค่ 19,000 Btu/h เท่านั้นเอง จึงเหมาะที่จะใช้กับห้องขนาดเล็กๆเป็นหลัก ถ้าท่านต้องการใช้กับห้องขนาดใหญ่ตามภาพด้านบน ท่านจำเป็นต้องติดตั้งจำนวนเครื่องมากขึ้นเพื่อให้ Btu/h โดยรวมมีความเหมาะสม ซึ่งก็ต้องพิจารณาในเรื่องของต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เราได้พูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับคอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF มาพอสมควรแล้ว ถ้าท่านกำลังต้องการปรับปรุงอาคารหลังเก่าหรือกำลังออกแบบระบบระบายอากาศให้อาคารหลังใหม่ หวังว่าท่านจะไม่ลืมเลือกใช้คอลย์เย็นแบบคาสเส็ท 4 ทิศทางของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF นะครับ เพื่อที่ผู้ที่อยู่อาศัยในอาคารจะได้มีสุขภาพที่ดีและมีประสิทธิภาพในการทำงาน แล้วกลับมาพบกันใหม่ครับในบทความหน้า หรือหากท่านสนใจระบบปรับอากาศ VRV/VRF ติดต่อเราได้ที่นี่ครับ
ติดตาม Harn Engineering Solutions
เรามีบทความดีๆ และเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ส่งตรงถึงอีเมลคุณทุกสัปดาห์