เปิดประตูสู่โลกหลังความตาย
‘ร่าง’ ไร้วิญญาณ ในห้องเย็นเก็บศพ มาตรฐานจาก HARN
#1
คำว่า ยากดีมีจน อาจเป็นปัจจัยให้แต่ละชีวิต ‘ใช้เวลา’ สุขทุกข์อย่างแตกต่าง หากในวันที่ทุก ‘ลมหายใจสุดท้าย’ ดับลง ไม่ว่าจะเป็นใคร ร่างกายหรือสังขารย่อมเสื่อมสลายไปอย่างไม่มีข้อยกเว้น
เป็นที่รู้กันว่า หากผู้เสียชีวิตจากลาคนที่อยู่เบื้องหลังที่โรงพยาบาล ‘ร่าง’ ไร้วิญญาณ จะถูกนำส่งสู่โลกใหม่หลังความตาย ณ ‘ห้องเย็นเก็บศพ’ หรือที่ได้รับการเรียกขานกันในนาม ‘ห้องดับจิต’
ทว่าโลกใหม่หลังความตายที่ว่า ไม่ใช่วิถีหรือเรื่องเร้นลับของดวงวิญญาณ หากเป็นสถานที่ที่ได้รับการออกแบบเพื่อวาระสุดท้ายในการเก็บรักษาร่างของผู้เสียชีวิต ก่อนการนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หรือทำการศึกษาทางการแพทย์ ในฐานะ ‘อาจารย์ใหญ่’
#2
ห้องเย็นเก็บศพเป็นพื้นที่เก็บรักษาร่างกายของผู้เสียชีวิต ไม่ให้เกิดความเสียหายจากเชื้อแบคทีเรีย
ด้วยเพราะร่างของผู้เสียชีวิตก็คือซากศพประเภทหนึ่ง ไม่แตกต่างจากซากหมู ซากวัว ซากไก่ ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ ที่แบคทีเรีย และจุลินทรีย์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในอากาศสามารถทำลายเซลล์ให้เกิดความเสียหายได้
“นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไม หลังจากเสียชีวิต แพทย์หรือพยาบาลจึงฉีดฟอร์มาลีนเข้าสู่ร่างกายไปทั่วๆ ทุกส่วน หลายๆ จุด เพราะเมื่อเสียชีวิตแล้ว หัวใจก็จะหยุดเต้น ระบบของร่างกายไม่ทำงาน จึงไม่สามารถนำพาฟอร์มาลีนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายได้” ดร. สุกิจ ลิติกรณ์ ผู้อำนวยการสายงานสนับสนุนวิศวกรรม ธุรกิจระบบทำความเย็น แห่งบริษัท หาญ เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าว
“สำหรับห้องเย็นเก็บศพเป็นงานอีกส่วนที่ยาก เพราะเกี่ยวข้องกับการรักษาร่างกายของผู้เสียชีวิตเช่นกัน เพราะบางครั้ง บางอวัยวะ หรือเนื้อเยื่อต่างๆ อาจได้รับฟอร์มาลีนไม่ทั่วถึง ห้องเย็นเก็บศพจึงเป็นอีกองค์ประกอบที่ช่วยเก็บรักษาร่างกายของผู้เสียชีวิต ไม่ให้เกิดความเสียหายจากเชื้อแบคทีเรีย”
#3
หลักการออกแบบห้องเย็น คือ ความต้องการหยุดอัตราการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
มนุษย์ หมู วัว ไก่ หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่เป็นสารอินทรีย์ ซึ่งสามารถเน่าเปื่อย เกิดความเสื่อมสลายและเสียหายนั้น เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนสภาพทางชีวเคมี โดยแบคทีเรียมีสามตระกูลใหญ่ๆ เป็นตัวก่อการสำคัญ
ที่มา: http://www.foodnetworksolution.com
หนึ่งคือ กลุ่ม Thermophile คือจุลินทรีย์ที่สามารถเจริญเติบโตที่ช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ 45-80 องศาเซลเซียส “กล่าวคือ สมมติอุณหภูมิอยู่ที่ 45 องศาเซลเซียส อัตราการเจริญเติบโต (Rate of Growth) ของแบคทีเรียกลุ่มนี้จะเป็นศูนย์ แต่ถ้าอุณหภูมิสูงขึ้นมาประมาณ 70 องศาเซลเซียส อัตราการเจริญเติบโตของแบคทีเรียกลุ่มนี้จะสูงที่สุด และถ้าอุณหภูมิสูงมากกว่านั้น เช่น 80-90 องศาเซลเซียส อัตราการเจริญเติบโตของแบคทีเรียกลุ่มนี้จะหยุดการเจริญเติบโต แต่ไม่ได้ตายนะ เพียงหยุดการเจริญเติบโตเท่านั้น” ดร. สุกิจอธิบาย
“สมมติว่า ถ้าเรารักษาอุณหภูมิไว้ได้ที่ 80 องศาเซลเซียส แบคทีเรียกลุ่มนี้มีอัตราการเจริญเติบโตอยู่ที่หนึ่งล้านตัว แต่ถ้าปล่อยให้อุณหภูมิมาอยู่ที่ 70 องศาเซลเซียส อัตราการเจริญเติบโตก็จะสูงขึ้น กลายเป็น 2- 4 ล้านได้ในระยะเวลาหนึ่ง ถ้าทำให้อุณหภูมิเย็นลงไปอีก จนกระทั่งถึง 45 องศาเซลเซียส ณ ตอนนั้น อัตราการเจริญเติบโตของแบคทีเรียกลุ่มนี้มีจำนวนเท่าไร ก็จะหยุดที่เท่านั้น แต่ไม่ได้ตาย”
สองคือ กลุ่ม Mesophile คือแบคทีเรียที่สามารถเจริญเติบโตที่ช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ 10-50 องศาเซลเซียส และในการอธิบายเดียวกันกับแบคทีเรียกลุ่ม Thermophile คือ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น อัตราการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก็จะสูงขึ้นตามจนกระทั่งถึงค่าสูงสุด
สุดท้ายคือ กลุ่ม Psychrophile คือแบคทีเรียที่สามารถทนต่อความเย็นได้ “ความหมายว่า ถ้าอุณหภูมิต่ำ ยกตัวอย่างที่ 5 องศาเซลเซียส แบคทีเรียกลุ่ม Thermophile และ Mesophile จะมีอัตราการเจริญเติบโตหยุดนิ่ง คือที่ศูนย์ แต่ในขณะนั้น แบคทีเรียกลุ่ม Psychrophile กลับมีอัตราการเจริญเติบโตสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่อุณหภูมิอยู่ที่ -18 องศาเซลเซียส แบคทีเรียกลุ่ม Psychrophile จะไม่มีอัตราการเจริญเติบโต” ดร.สุกิจกล่าว
“ทั้งนี้ อัตราการเจริญเติบโตของแบคทีเรียกลุ่ม Psychrophile นั้น ไม่ได้มากเท่ากับแบคทีเรียกลุ่ม Thermophile และ Mesophile เพราะฉะนั้น ส่วนใหญ่แล้ว หลักๆ คือเราต้องการหยุดอัตราการเจริญเติบโตของแบคทีเรียกลุ่ม Mesophile”
#4
ปัจจัยที่มีผลต่ออายุการเก็บร่างของผู้เสียชีวิตภายในห้องเย็นเก็บศพ
ส่วนใหญ่แล้ว การเสียชีวิตมักเกิดขึ้นจากสองกรณี คือ เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ และเสียชีวิตจากการเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งหลังการเสียชีวิต มักจะมีการนำ ‘ร่าง’ ไปสู่อีกสองทางแยก คือ บริจาคร่างกายเพื่อให้ทำการศึกษา หรือนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป การเก็บร่างกายของผู้เสียชีวิตทั้งสองวัตถุประสงค์ที่แม้จะแตกต่าง ทว่าก็ได้รับการรักษาไว้ในห้องเย็นที่อุณหภูมิต่ำถึง -18 องศาเซลเซียส ไม่ต่างกัน
ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีผลต่ออายุการเก็บร่างของผู้เสียชีวิตภายในห้องเย็นเก็บศพนั้น มีสามประเด็นสำคัญ ได้แก่
หนึ่ง อุณหภูมิ คือ นอกจากจะเป็นห้องที่มีอุณหภูมิตามความต้องการแล้ว ยังต้องสามารถรักษาอุณหภูมิภายในห้องให้คงที่ เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอุณหภูมิที่สูงขึ้น จะส่งผลต่อแบคทีเรียแต่ละกลุ่ม ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างของผู้เสียชีวิต
สอง ปริมาณแบคทีเรียที่มีในร่างของผู้เสียชีวิตก่อนการเก็บรักษา
“กล่าวคือ ในกรณีที่ ศพที่หนึ่ง กับศพที่สอง เสียชีวิตพร้อมกัน แต่ศพที่หนึ่งเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บ ส่วนศพที่สองเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ปริมาณแบคทีเรียที่มีในร่างของผู้เสียชีวิตย่อมแตกต่างกัน พบว่า ศพที่หนึ่งซึ่งเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บ จะมีเชื้อแบคทีเรีย เชื้อโรคต่างๆ เป็นจำนวนมากอยู่ในร่างกาย แต่ในกรณีที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุนั้น เป็นเหตุปัจจุบันทันด่วน เชื้อแบคทีเรีย เชื้อโรคต่างๆ ย่อมน้อยกว่าคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ปริมาณแบคทีเรียจำนวนมากที่มีในร่างของผู้เสียชีวิต มีผลต่อการเก็บรักษาร่างที่สั้นลง” คุณสุกิจอธิบาย
สุดท้ายคือ ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity) ห้องเย็นเก็บศพนั้นรักษาความชื้นสัมพัทธ์อยู่ที่ 88-92%RH หากน้อยกว่านี้ ร่างของผู้เสียชีวิตจะสูญเสียน้ำ เป็นสาเหตุให้น้ำหนักลดลง แห้ง เหี่ยวย่น มีสีคล้ำ ในทางตรงข้าม หากความชื้นสัมพัทธ์มากเกินไป ให้เกิดเมือกบริเวณผิว และมีเชื้อราเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ปริมาณแบคทีเรียที่มีในร่างของผู้เสียชีวิตก่อนการเก็บรักษาเป็นปัจจัยที่มีผลต่ออายุการเก็บร่างของผู้เสียชีวิตที่ผู้ออกแบบห้องเย็นเก็บศพที่ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะฉะนั้น การเก็บรักษาร่างของผู้เสียชีวิตแต่ละรายภายในห้องเย็นเก็บศพ จึงไม่ใช่การรับประกันว่าร่างของผู้เสียชีวิตจะเน่าเปื่อยช้าหรือเร็ว ด้วยเพราะวาระก่อนลมหายใจสุดท้ายของแต่ละร่างนั้นแตกต่างกันนั่นเอง
#5
จริงอยู่ ในวาระหลังลมหายใจสุดท้ายของผู้เสียชีวิต บรรดาผู้เป็นที่รัก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ญาติพี่น้อง หรือใครก็ตามที่อยู่ข้างหลัง อาจสิ้นสุดหน้าที่การดูแลผู้จากไป แต่ทุกคนย่อมมีความคาดหวัง ว่า ‘ร่าง’ ไร้วิญญาณ ของคนที่ตนรัก จะได้รับการปฏิบัติอย่างดีและให้เกียรติ นั่นเป็นที่มาว่า โรงพยาบาลต่างๆ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทำความเย็นจาก HARN จึง ‘ออกแบบ’ และ ‘จัดสร้าง’ พื้นที่สำหรับจัดเก็บร่างของผู้เสียชีวิตภายในห้องเย็นเก็บศพ หรือห้องดับจิต เพื่อให้ ‘ชีวิตหลังความตาย’ ของทุกคน ได้รับการ ‘ดูแล’ อย่างมีมาตรฐานเท่าเทียมกัน
Subscribe to our newsletter
Subscribe to our weekly newsletter to get update to your inbox!