สถิติการเกิดอัคคีภัยในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2550-2559 โดยสำนักข่าวไทย พบว่ามีเหตุอัคคีภัยมากกว่า 1,500 ครั้งต่อปี ในเฉพาะอาคารขนาดใหญ่ที่เป็นตึกสูงและห้างสรรพสินค้า พบว่ามีเหตุอัคคีภัยเกิดขึ้นถึง 100 ครั้งในช่วงเวลา 10 ปี ส่งผลให้เกิดความเสียหายมูลค่าหลายพันล้านบาท
อัคคีภัย เป็นเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นได้ในทุกสถานที่ที่มีเชื้อเพลิงเป็นส่วนประกอบ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วในอาคารสำนักงาน โรงงาน ห้างสรรพสินค้า ก็ล้วนมีส่วนประกอบของเชื้อเพลิง ทั้งในโครงสร้างอาคาร รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่จัดเก็บในอาคาร ก็ล้วนเป็นเชื้อเพลิงได้เมื่อเกิดไฟลุกไหม้
สาเหตุของอัคคีภัย
ต้นเหตุเพลิงไหม้เกิดจากประกายไฟ ที่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยทั้งจากการชำรุดของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ก่อให้เกิดการลัดวงจร รวมไปถึงความประมาทเลินเล่อของผู้ที่ทำงานหรืออาศัยในอาคารเอง จึงส่งผลให้ประกายไฟไปติดกับเชื้อเพลิงกลายเป็นเหตุอัคคีภัยที่สร้างความเสียหายแก่อาคาร ทรัพย์สิน ไปจนถึงชีวิตของผู้ที่อยู่ในอาคารด้วย
การให้ความรู้ผู้อาศัยในอาคารเกี่ยวกับการรับมือเมื่อเกิดเพลิงไหม้ หรือจัดอบรมดับเพลิง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดโอกาสความสูญเสีย เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ รวมถึงผู้อาศัยเองก็สามารถระงับเหตุเบื้องต้นเองได้จากความรู้ที่ได้รับจากการอบรมดับเพลิง
การจัดอบรมระบบดับเพลิง คืออะไร?
เมื่อเกิดอัคคีภัยรุนแรงหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์จะไม่สามารถควบคุมสติ หรือไม่สามารถยับยั้งเหตุให้ทุเลาลงได้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ในตึกสูงหรืออาคารขนาดใหญ่ ผู้คนที่ติดอยู่ด้านในมักได้รับอันตรายจากการสูดดมควันไฟทำให้หมดสติอยู่ภายใน หรือไม่สามารถหนีออกมาได้เนื่องจากไม่รู้เส้นทางหนีไฟของตึกนั้น
“รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี” การจัดอบรมดับเพลิงจึงมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ที่ทำงานอยู่ในอาคารสำนักงาน โรงงาน ห้างสรรพสินค้า สามารถเอาตัวรอดได้เมื่อเกิดเหตุอัคคีภัยอย่างปลอดภัย และได้รับอันตรายน้อยที่สุด โดยข้อมูลจาก สสส. พบว่าเหตุเพลิงไหม้ในชุมชนเมืองในกรุงเทพมหานครมีแนวโน้มลดลง 25% ในปี 2561 แต่ยังไม่เพียงพอต่อความปลอดภัย จึงมีการรณรงค์ป้องกันอัคคีภัยทางสื่อต่างๆ รวมถึงการอมรมให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัยด้วย
นอกจากนี้การเข้าใจถึงโครงสร้างอาคารที่พวกเขาทำงานอยู่ จะช่วยให้ผู้ที่เข้าอบรมรับรู้ถึงเส้นทางหนีไฟและการใช้ประตูหนีไฟที่ถูกต้อง และสามารถแยกแยะได้ว่าเสียงเตือนภัยที่เกิดขึ้นเกิดจากอัคคีภัยหรือการทำงานของอุปกรณ์เตือนภัยที่ผิดพลาดจากความประมาทของผู้ที่อยู่ในอาคาร เช่น มีการสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบทำให้ควันบุหรี่ไปสัมผัสกับเครื่องตรวจจับควันไฟและเกิดสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ขึ้น
ควรจัดอบรมระบบดับเพลิงเมื่อใด?
สำหรับสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป หรืออาคารสำนักงานที่มีสถานประกอบกิจการอยู่รวมกัน ควรมีการจัดฝึกซ้อมดับเพลิงและหนีไฟอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้ทุกคนที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในอาคารได้ทราบถึงการป้องกันและระงับเหตุอัคคีภัยตามมาตรฐาน และสามารถใช้งานอุปกรณ์ดับเพลิงในอาคารได้เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้
นอกจากนี้เมื่อภายในอาคารมีการปรับปรุง ปรับเปลี่ยนโครงสร้างในบางจุดซึ่งส่งผลต่อแผนการป้องกันและระงับเหตุอัคคีภัย เจ้าของอาคารหรือนายจ้างจะต้องจัดอบรมระบบดับเพลิงให้กับทุกคนที่อาศัยอยู่ในอาคารอีกครั้ง เพื่อปรับปรุงข้อมูลของแผนผังของอาคารและปรับเปลี่ยนแผนการหนีไฟเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินให้ทราบโดยทั่วกัน
3 เหตุผลว่าทำไมควรถึงให้ความสำคัญกับการจัดอบรมดับเพลิง
1. ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงสาเหตุและการป้องกันอัคคีภัย
เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในอาคารจะลุกลามผ่านทางเชื้อเพลิงที่ถูกเก็บไว้ในอาคาร รวมถึงโครงสร้างบางอย่างที่ติดไฟได้ง่าย เช่น ไม้ พลาสติก ซึ่งผู้เข้าอบรมจะต้องทำความเข้าใจว่าวัสดุแบบไหนที่ไม่ควรเก็บสะสมไว้ในอาคาร เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อการลุกลามของเพลิงไหม้
นอกจากนี้ผู้เข้าอบรมจะได้เข้าใจถึงวัสดุที่เมื่อติดไฟแล้วจะมีประเภทของเพลิงไหม้ที่แตกต่างกันออกไปซึ่งแบ่งเป็น 5 ประเภทได้แก่
เพลิงไหม้ประเภท A (Ordinary Combustibles) เป็นเพลิงไหม้จากเชื้อเพลิงธรรมดาที่ติดไฟง่าย เช่น ไม้ ผ้า เศษกระดาษ
เพลิงไหม้ประเภท B (Flammable Liquids) เป็นเพลิงไหม้จากเชื้อเพลิงที่เป็นของเหลวติดไฟที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน
เพลิงไหม้ประเภท C ( Electrical Equipment) เป็นเพลิงไหม้จากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ยังมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านอยู่
เพลิงไหม้ประเภท D (Combustible Metals) เป็นเพลิงไหม้จากโลหะที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ หรือโรงงานที่ผลิตโลหะ
เพลิงไหม้ประเภท K (Combustible Cooking) เป็นเพลิงไหม้จากไขมันและน้ำมันที่ใช้ประกอบอาหารในครัว
โดยเพลิงไหม้ทั้ง 5 ประเภทนี้จะมีวิธีการดับที่แตกต่างกันออกไป การอบรมจะทำให้ผู้ที่เข้าอบรมได้ทราบถึงวิธีการดับไฟที่เหมาะสมตามประเภทของเชื้อเพลิง เนื่องจากเชื้อเพลิงแต่ละชนิดมีวิธีการดับที่เหมาะสมแตกต่างกัน
2. ผู้เข้าอบรมสามารถประเมินสถานการณ์และอพยพหนีไฟเมื่อเกิดอัคคีภัยได้
สำหรับการประเมินสถานการณ์เมื่อเกิดเพลิงไหม้นั้นจะต้องใช้ควบคู่ไปกับหลักจิตวิทยา สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีความรู้ในการประเมินสถานการณ์อัคคีภัยมาก่อน มักจะมีอาการตื่นตระหนกเมื่อตนเองติดอยู่ภายในหรือพบเห็นเหตุการณ์ ส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมตนเองที่จะระงับเหตุตรงหน้าหรือไม่มีสติเพียงพอที่จะช่วยให้ผู้อื่นหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุได้
เมื่อทุกคนผ่านการอบรมระบบดับเพลิงแล้วจะสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม และไม่ตื่นตระหนกเมื่ออพยพต้องหนีไฟออกจากอาคารเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย รวมถึงเมื่อพบเห็นเพลิงไหม้ตรงหน้าจะสามารถเตือนผู้อื่นหรือระงับเหตุเบื้องต้นได้ทันที
หลังจากการประเมินสถานะการณ์แล้วพบว่าสัญญาณแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้นั้นมาจากเหตุอัคคีภัยจริง การอพยพหนีไฟออกจากอาคารจึงต้องได้รับการฝึกซ้อมอย่างถูกต้องตามแผนการ เนื่องจากการเคลื่อนย้ายคนจำนวนมากออกมาจากอาคารพร้อมกันจะมีความโกลาหลส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บทางร่างกายจากการปะทะกับผู้อื่น หรืออาจจะได้รับอันตรายจากควันไฟเมื่อสูดดมเข้าไปทำให้หมดสติได้
ดังนั้นการฝึกซ้อมหนีไฟให้เป็นไปตามแผนที่ฝึกซ้อมอพยพหนีไฟเอาไว้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้การเคลื่อนย้ายคนจากในอาคารออกมาได้อย่างปลอดภัย
3. ผู้เข้าอบรมเข้าใจการทำงานของอุปกรณ์ระงับเหตุอัคคีภัยและใช้งานอย่างถูกต้อง
ผู้เข้าอบรมที่นอกจากจะได้รับความรู้เกี่ยวกับสาเหตุและการป้องกันการเกิดอัคคีภัยแล้ว ในภาคปฏิบัติที่นอกจากการซ้อมหนีไฟ คือการฝึกการใช้งานอุปกรณ์ดับเพลิงในอาคารเพื่อใช้ในการระงับเหตุอัคคีภัยขั้นต้น ได้แก่
- การทำงานของอุปกรณ์ดับเพลิงอัตโนมัติภายในอาคารว่าทำงานอย่างไร และทำงานเมื่อไร เพื่อให้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดการประมาทเลินเล่อทำให้สัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ดังโดยที่ไม่มีเหตุ
- การใช้สายส่งน้ำดับเพลิง ซึ่งอยู่ในตู้ดับเพลิงที่ทางอาคารจัดเตรียมเอาไว้ ว่าใช้งานอย่างไรและการใช้สัญญาณมือเพื่อเปิด-ปิด วาล์วน้ำเนื่องจากจะต้องใช้กำลังคนหลายคน
- ฝึกดับเพลิงที่เกิดจากเชื้อเพลิงธรรมดาและแก๊สโดยการใช้ถังดับเพลิงอย่างถูกวิธี และตำแหน่งที่ติดตั้งของถังดับเพลิงในอาคารว่ามีที่ไหนบ้าง จำนวนเท่าไร
จัดอบรมดับเพลิงช่วยลดความเสียหายเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้
เจ้าของอาคารหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในระบบความปลอดภัยของอาคาร ควรมีการจัดการอบรมระบบดับเพลิงอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้คนที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในอาคารได้มีความเข้าใจถึงความเสี่ยงเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย โดยสามารถควบคุมเหตุเบื้องต้นได้ และในกรณีที่มีเหตุอัคคีภัยรุนแรงจะสามารถอพยพหนีไฟออกมาได้อย่างปลอดภัยและไม่ได้รับอันตรายทางร่างกาย
ถ้าคุณกำลังมองหาการวางแผนติดตั้งระบบดับเพลิง รวมถึงระบบป้องกันเหตุอัคคีภัยให้กับอาคารของคุณ ติดต่อเราได้ที่นี่ เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านระบบดับเพลิงที่คอยให้คำแนะนำกับคุณได้อย่างเต็มที่
ติดตาม Harn Engineering Solutions
เรามีบทความดีๆ และเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ส่งตรงถึงอีเมลคุณทุกสัปดาห์